พระกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา

เส้นทางนักพระเครื่อง - รุ่ง ปากเกร็ด ผู้จุดประกาย"พระกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา"
รุ่ง ปากเกร็ด เป็นชาวเกาะเกร็ด โดยกำเนิด คุณแม่มีเชื้อสายมอญ ส่วนคุณพ่อเป็นคนเชื้อสายไทย ตอนเด็กๆ พ่อแม่ไปทำงานที่อื่น จึงต้องอาศัยอยู่กับยายที่บ้าน ซึ่งก็มีอายุมากแล้ว ชีวิตในวัยเด็ก จึงต้องดิ้นรนช่วยตัวเองโดยตลอด สมัยเด็ก เรียนหนังสืออยู่ที่วัดเสาธงทอง พอมีเวลาว่างจะไปช่วย หลวงตาลี่ กดพิมพ์พระ เสร็จแล้วเอาไปฝากชาวบ้านที่มีเตาเผาหม้อไห ซึ่งมีอยู่มากบนเกาะเกร็ด พระที่เผาเสร็จแล้ว หลวงตาลี่จะเอาไปบรรจุไว้ใต้ฐานองค์พระประธานในโบสถ์ ไม่มีการแจกจ่ายแต่ประการใด หลวงพ่อบอกว่าเอาไว้สืบพระศาสนา

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ รุ่ง มีความใกล้ชิดกับเรื่องของพระเครื่องมาตั้งแต่เด็กๆ พอย้ายไปเรียนที่โรงเรียนวัดปรมัยยิากาวาส (วัดเจดีย์เอียง) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ต้องดิ้นรนหาเงินทองเอาเอง โดยขอพระจากหลวงพ่อตามวัดต่างๆ บนเกาะเกร็ด หรือจากบ้านเพื่อนๆ แล้วนั่งเรือล่องไปที่ วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ เอาพระที่ได้ไปขายในสนามพระวัดมหาธาตุ ก็ได้เงินเป็นร้อย นับว่ามากพอสมควร ขณะเดียวกัน ก็ขอพระจากผู้ใหญ่ในสนามพระบ้าง พระที่เขาตกหล่นตามพื้นบ้าง ซึ่งเป็นพระใหม่ ไม่มีใครสนใจ เอากลับมาขายที่เกาะเกร็ด หรือข้ามฝั่งไปทางท่าน้ำห้าแยกปากเกร็ดบ้าง ก็ขายได้เงินเช่นกัน รุ่งเล่าว่า "สมัยนั้นอายุประมาณ ๑๕ ปี มีเพื่อนบางคนที่เกเรมากๆ มาชวนไปจี้ไปปล้นชาวบ้าน ไปงัดแงะบ้านก็มี แต่ไม่เอา เพราะผมมีทางหาเงินที่ดีกว่า คือ การหาพระไปขาย ดีกว่าปลอดภัยดี ไม่เสี่ยงต่อการถูกจับเข้าคุก เพื่อนพวกนั้นต่อมาติดคุกกันเป็นประจำ เพราะไม่รักดี ส่วนตัวผมเรียกว่ารอดคุกมาได้อย่างปลอดภัย ในชีวิตจึงไม่เคยคิดที่จะทำความชั่ว ก็อยู่ได้ด้วยลำแข้งลำขาตัวเอง ไม่มีใครช่วยเหลือ"

ชีวิตของ รุ่ง เริ่มหักเห เมื่อวันหนึ่ง เอาพระไปเร่ขายแถววัดบางขวาง ที่นั่นมีร้านกาแฟเจ๊บ๊วย เจ๊เล็ก เป็นสภากาแฟท้องถิ่นที่มีผู้คนมานั่งกินกาแฟกันอย่างคับคั่ง รวมทั้งผู้ที่สนใจในเรื่องพระเครื่อง ก็มานั่งส่องพระ ซื้อขายกันเป็นประจำ วันนั้น รุ่ง ได้พบกับ คุณพยัพ คำพันธุ์ ซึ่งมาร่วมเสวนาอยู่ด้วย พอเห็นรุ่งกำพระไปขายก็เกิดความสนใจในตัวรุ่งขึ้นมาทันที จึงซื้อพระที่ถือไปทั้งหมด ทำให้รุ่งดีใจมาก พร้อมกันนี้ "พี่ยัพ" ยังบอกด้วยว่า วันหลัง ถ้ามีพระอะไรก็เอามาให้ที่ร้านกาแฟที่นี่ได้เลย จะมาเป็นประจำ จากตรงนี้ทำให้รุ่งมีความหวังขึ้นมาแล้วว่า ชีวิตคงไม่อดตายแน่นอนแล้ว จึงออกตระเวนหาพระตามบ้านเพื่อนๆ บนเกาะเกร็ด รวมทั้งทางฝั่งปากเกร็ด จ.นนทบุรี พอได้พระมาแล้วก็เอาไปให้ "พี่ยัพ" ที่ร้านกาแฟหน้าวัดบางขวาง ก็ได้เงินตามแต่พี่ยัพจะให้เงิน

ขณะเดียวกัน พี่ยัพก็สอนวิธีดูพระให้ด้วย โดยเฉพาะพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด ซึ่งเป็นสุดยอดของพระปิดตาเมืองไทย หากได้มาสักองค์ ก็เรียกว่า รวยไปนานปีเลยทีเดียว มาถึงตอนนี้ พอมีเงินขึ้นมาแล้ว รุ่งจึงหาซื้อรถจักรยานยนต์ ขี่ไปหาพระตามต่างจังหวัด ไปถึงโน่น...นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กาญจนบุรี ฯลฯ เพราะมีเพื่อนมาก จึงมีคนคอยดูแลช่วยเหลือ ไปถึงที่ไหนก็หาเช่าบ้านพัก แล้วออกหาพระตามบ้านไปเรื่อยๆ ก็ได้พระแทบทุกวัน แท้บ้าง เก็บ้างปะปนกันไป แต่ส่วนใหญ่มีพระแท้มากกว่า พระเก๊สมัยนั้นเก๊แบบง่าย ก็พอดูออก

เมื่อซื้อพระได้มาแล้ว จะบอกให้พี่ยัพขับรถไปขนพระได้แล้ว กองเต็มห้องพักจนไม่มีที่จะนอนอยู่แล้ว พี่ยัพก็จะขับรถไปขนพระกลับกรุงเทพฯ พร้อมกับให้เงินไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อให้หาซื้อพระต่อไป พอได้เงินมา ก็จะแบ่งให้กับคนที่พาไปซื้อพระบ้าง ให้เจ้าของบ้านที่ไปแบ่งห้องพักบ้าง จนตอนหลังชาวบ้านรู้ข่าวก็มักจะมาชวนให้ไปพักที่บ้านเขา เพราะจะได้มีรายได้พิเศษบ้าง บางคนรับจ้างตัดอ้อยได้วันละ ๒๐ บาท พอมาได้ส่วนแบ่งจากการขายพระได้ถึง ๕ พันบาท ก็ดีใจ ตระเวนหาพระให้พี่ยัพอยู่หลายปี พี่ยัพบอกให้หยุดได้แล้ว ไม่ต้องไปหาพระที่ไหนอีก ให้มาช่วยดูแลร้านพระที่เปิดขึ้นที่ศูนย์พระห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ชีวิตของรุ่งก็เลยได้แจ้งเกิดขึ้นที่ศูนย์พระเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ต่อมาเมื่อเกิดไฟไหม้ห้าง พี่ยัพได้ย้ายมาเปิดที่ห้างบางลำภู งามวงศ์ที่อยู่เยื้องกัน ซึ่งก็คือ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ในทุกวันนี้

รุ่ง ปากเกร็ด ได้ชื่อว่า เป็นผู้จุดประกาย พระกรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา ให้เป็นที่รู้จักของนักสะสมพระเครื่องได้อย่างกว้างขวาง จากอดีตที่พระกรุนี้เคยถูกมองผ่าน โดยหาว่าเป็น พระกรุเมืองแตก (เสียกรุง) ไม่มีราคา ไม่มีใครเล่น  หากจะซื้อขายกันบ้าง ก็จะเอาเฉพาะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆ หรือพระบูชาที่มีศิลปะสวยๆ "ผมมารู้ภายหลังว่า เซียนพระบางคนชอบพูดคำว่า พระกรุเมืองแตก ก็เพื่อกดราคาพระ แท้จริงแล้วเขาจะเอาเฉพาะพิมพ์ที่มีลวดลายสวยงามอลังการ แล้วเอาไปขายฝรั่ง ได้ราคาดี ฝรั่งเขาไม่สนใจหรอกว่าเป็นพระเสียกรุง เขาสนใจเฉพาะศิลปะที่สวยงาม และมีความเก่ามากกว่า เพราะมีคุณค่าสูงอยู่แล้ว" รุ่งกล่าวย้อนอดีตที่ได้ประสบมา

พระกรุวัดราชบูรณะ เป็นพระกรุที่สร้างโดยพระมหากษัตริย์ คือ เจ้าสามพระยา ที่ได้สร้างวัดราชบูรณะ และสร้างพระเครื่องพระบูชา และของมีค่าต่างๆ บรรจุเอาไว้ภายใน เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลแด่ เจ้าอ้ายพระยา กับ เจ้ายี่พระยา ๒ พระเชษฐา ที่ได้เกิดการสู้รบเพื่อแย่งราชสมบัติกันขึ้น จนสิ้นพระชนม์ทั้ง ๒ พระองค์ ส่วน เจ้าสามพระยา ซึ่งเป็นพระอนุชา ไม่ร่วมสู้รบด้วย ก็เลยได้เป็นผู้ครองราชสมบัติ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า xxxx และได้สร้างพระเครื่องพระบูชาบรรจุไว้ในกรุวัดราชบูรณะดังกล่าว ต่อมาเมื่อก่อนปี ๒๕๐๐ มีชาวบ้านไปลักขุดหาทองคำและสมบัติอันมีค่าภายในองค์เจดีย์ที่วัดราชบูรณะ นำออกมาขายในตลาด จนบางคนที่ไปลักขุดหาพระได้กลายเป็นคนบ้าไปก็มี และทางราชการรู้ข่าว จึงได้สั่งให้กรมศิลปากร ทำการปิดล้อมรั้วบริเวณวัดราชบูรณะ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรไปขุดหาสิ่งของมีค่าต่างๆ ในองค์เจดีย์อย่างเป็นทางราชการ

ในครั้งนั้น ได้ขุดพบพระเครื่องมากมาย พระกรุวัดราชบูรณะเป็นหมื่นๆ องค์ จึงนำออกจำหน่ายให้ประชาชนส่วนหนึ่ง เพื่อนำรายได้เป็นกองทุนสร้างพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา เพื่อเก็บรักษาสมบัติต่างๆ ที่ขุดได้จากรุนี้ ด้วยเหตุนี้ รุ่ง จึงได้ให้ความสนใจพระกรุนี้มากเป็นพิเศษ พร้อมกว้านซื้อพระกรุนี้ไปทั่วทุกแห่งหน จนมีบางคนพูดกันว่า จะบ้าหรือไง ถึงได้เก็บแต่พระกรุวัดราชบูรณะนี้จนเต็มไปร้านไปหมด และจากการที่รุ่งได้เผยแพร่ความรู้ต่างๆ ของพระกรุวัดราชบูรณะนี้ตามสื่อต่างๆ ทำให้ผู้คนหันมาสนใจ และเริ่มเข้าใจว่า ทำไมเขาจึงเก็บแต่พระกรุวัดราชบูรณะ  สื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ มาขอถ่ายทำ สัมภาษณ์ จนทุกวันนี้ ไม่มีใครพูดถึงพระกรุนี้ในทางลบอีกเลย

 ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ให้ความสนใจเช่าหาพระกรุวัดราชบูรณะ อย่างจริงจังสมัยก่อนมีการขายพระผิดกรุ แต่ทุกวันนี้มีผู้รู้มากขึ้น และสับสนเกี่ยวกับพระกรุนี้แต่อย่างไร รุ่งบอกว่า เคยขายพระแผงพิมพ์ใบขนุน พระกรุวัดราชบูรณะในราคา ๘ พันบาท ตอนนี้มีการซื้อขายกันที่ ๗ หมื่นบาท พระหูยาน เคยขายไป ๑ หมื่นบาท ตอนนี้ซื้อขายกันที่ ๖ หมื่นบาท สมัยนี้นักสะสมมีมากขึ้น สนใจมากขึ้น ทำให้พระขายได้ราคาขึ้นด้วย จนทุกวันขายแทบพระหมดแล้ว

 พระกรุวัดราชบูรณะ ไม่ใช่จะมีแต่พระศิลปะอยุธยาตอนต้น หรือตอนกลางเท่านั้น พระสมัยทวารวดี สุโขทัย เชียงแสน ก็มี เป็นการนำของเก่ามาฝากกรุรวมเอาไว้ด้วย ส่วนพระที่สร้างขึ้นในสมัยเจ้าสามพระ ก็มีการสร้างแบบล้อพิมพ์พระเมืองต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย แต่สร้างด้วยฝีมือช่างสมัยอยุธยา พุทธศิลป์จึงย่อมแตกต่างกันไป ซึ่งมีจุดสังเกตศึกษาได้ไม่ยากนัก พระกรุวัดราชบูรณะ จ.อยุธยา พิมพ์ต่างๆ ซึ่งมีมากมายเช่น พระซุ้มประภามณฑล พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พระพุทธชินราช พระซุ้มเรือนแก้ว พระซุ้มคู่ พระกำแพงศอก พระลีลากำแพงใบขนุน เนื้อชินเงิน กรุวัดราชบูรณะ พระแผงปางนาคปรก พระแผงซุ้มข้างเม็ด พระซุ้มร่มโพธิ์ พระปรุหนังเดี่ยว พระยอดขุนพล พระปางลีลาซุ้มดอกไม้

สมัยนี้พระเก๊มีมาก สามารถถอดพิมพ์ทำพระเก๊ได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ คือธรรมชาติ ความเก่าของเนื้อพระ โดยเฉพาะพระเนื้อชิน อายุนับร้อยปี จะต้องมีรอยปะทุ (หรือรอยระเบิด) ทุกองค์ รอยปะทุจะเกิดจากข้างในออกมานอก ไม่ใช่เอาน้ำกรดสาดใส่ ซึ่งจะทำให้รอยระเบิดเกิดจากข้างนอกลงไปข้างในเหมือนการเคี่ยวเทียน หรือเคี่ยวกะลาแม พอร้อนแล้วจะปะทุขึ้นมา หลักการพิจารณานี้ ใช้ได้กับพระเนื้อชินทุกอย่าง ดูพระกรุวัดราชบูรณะได้ พระอย่างอื่นๆ ก็ดูได้ อย่างไรก็ตาม รุ่งบอกว่า หากท่านผู้ใดสนใจ พระกรุวัดราชบูรณะ อย่างจริงจัง ก็ยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ มีจุดสำคัญๆ อยู่เพียงไม่กี่จุดเท่านั้น ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากนัก ตรงจุดนี้จะทำให้แยกได้ออกด้วยว่า พระแท้ พระปลอม ดูตรงไหนได้อีกด้วย

รุ่ง ปากเกร็ด มีร้านอยู่ตรงกับบันไดเลื่อน ชั้น ๓ ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร.๐๘-๑๙๑๓-๕๖๒๕ ใครสนใจพระกรุวัดราชบูรณะ ลองติดต่อดูนะครับ การดูพระขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นส่วนสำคัญ แต่ถ้าหากมีผู้รู้ช่วยชี้แนะให้ พร้อมทั้งมี "ของจริง" ให้ศึกษาด้วย ก็ย่อมจะทำให้เรียนรู้ดูพระเป็นเร็วยิ่งขึ้น ข่าวพระเครื่อง
ตาล ตันหยง ที่มา...